
เรือหลวงสุโขทัยจมลงใต้ผิวน้ำ เมื่อช่วงก่อนเที่ยงคืน ตำนานเกือบ 36 ปีรับใช้กองทัพเรือไทย
เรือหลวงสุโขทัย เรือคอร์เวตของกองทัพเรือที่มีอายุเกือบ 36 ปี ประสบอุบัติเหตุเรือเอียงหลังคลื่นลมแรง น้ำทะเลเข้าเครื่องไฟฟ้าแล้วเกิดดับ ล่าสุดจมลงใต้ผิวน้ำแล้ว เปิดตำนานเรือรบที่รองรับการรบแบบ 3 มิติ ทั้งทางอากาศ สงครามผิวน้ำ และปราบเรือดำน้ำ “โฆษกทัพเรือ” เปิดเผย น้ำทะเลเข้าเครื่องทำไฟฟ้าดับ และก็คลื่นลมแรงทำเรือเอียง
พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกทัพเรือ เปิดเผยถึงสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียง มีต้นเหตุมาจากคลื่นลมแรง แล้วก็เครื่องไฟฟ้าดับทำควบคุมเรือไม่ได้ ยันกำลังพลทั้งหมดไม่มีอันตราย
จากกรณี มีรายงานว่า เรือหลวงสุโขทัย ประสบเหตุเรือเอียง 60 องศา มีต้นเหตุที่เกิดจากเครื่องจักรใหญ่ รวมทั้งเครื่องจักรช่วย ขัดข้อง ทำให้น้ำย้อนไหลกลับเข้าไปในตัวเรือ พร้อมเร่งระบายน้ำ หากระบายไม่ได้ ก็จำต้องสละเรือ
วันที่ 18 ธันวาคม “กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ” ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า
“กองทัพเรือ ชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัยตัวเรือมีอาการเอียงจากคลื่นลมแรง สาเหตุจากเครื่องไฟฟ้าดับ พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ และประสานหน่วยงานภายนอก เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน ปัจจุบันนี้กำลังพลทั้งหมดปลอดภัย พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียง ตามที่ปรากฎข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ นั้น เป็นเหตุที่เกิดขึ้นขณะเรือหลวงสุโขทัยกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสบเหตุเรือมีอาการเอียงเนื่องจากในช่วงเวลานั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานส่งผลให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าข้างในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา
ทั้งนี้เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงได้สั่งการให้เรือรบรวมทั้งอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกร่วมให้การช่วยเหลือ ปัจจุบัน เรือหลวงกระบุรีได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งให้ช่วยเหลือกำลังพลของ เรือหลวงสุโขทัยเป็นอันดับแรก สำหรับเรือหลวงสุโขทัยยังคงมีอาการเอียงแต่ว่าสามารถผนึกน้ำได้แล้ว ปริมาณน้ำข้างในตัวเรือมีปริมาณคงที่
ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะดำเนินการช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึง ความปลอดภัยของกำลังพลเป็นหลัก สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป”
วันนี้ (19 ธ.ค.) จากกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุเรือเอียง 60 องศาจากคลื่นลมแรง
สาเหตุจากเครื่องไฟฟ้าดับ ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่รอบๆ แบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ แล้วเครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และก็ทำให้น้ำเข้าด้านในตัวเรืออย่างเร็วจนทำให้เรือเอียงในเวลาถัดมา
ล่าสุด พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยออกมาว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 18 เดือนธันวาคม เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำแล้ว เพราะมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในส่วนของกำลังพลทั้งหมด ได้รับความปลอดภัย สำหรับความคืบหน้า สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
สำหรับเรือหลวงสุโขทัย เป็นเรือคอร์เวตของกองทัพเรือ หมายเลข 442 สังกัดหมวดเรือที่ 1 กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ประจำการเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2530 สร้างโดยบริษัท ทาโคมา โบ๊ตบิลดิ้ง ที่เมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ในชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ 2 ลำ (ร่วมกับเรือหลวงรัตนโกสินทร์ หมายเลข 441) ได้รับการติดตั้งระบบอาวุโยุทโธปกรณ์ และระบบอำนวยการรบได้ทั้ง 3 มิติ ได้แก่ การป้องกันภัยทางอากาศ สงครามผิวน้ำ แล้วก็สงครามปราบเรือดำน้ำ
คุณสมบัติมีระวางขับน้ำปกติ 866.8 ตัน เต็มกำลัง 958.9 ตัน กว้าง 9.6 เมตร ยาว 76.7 เมตร สูง 26.82 เมตร น้ำลึกหัว 3.81 เมตร ท้าย 3.07 เมตร โดมโซนาร์ 4.5 เมตร ใช้เครื่องจักรใหญ่ดีเซลจำนวน 2 เครื่อง กำลัง 7,268 แรงม้า เครื่องไฟฟ้าจำนวน 4 เครื่อง ความเร็วมัธยัสถ์ 16 นอต สูงสุด 24 นอต ระยะปฏิบัติการสูงสุด 3,568 ไมล์ทะเล ภารกิจหลักคือ การปราบเรือดำน้ำ การลาดตระเวนตรวจการณ์ การคุ้มกันกระบวนเรือ การสนับสนุนการยิงฝั่ง ภารกิจรอง สนับสนุนภารกิจทัพเรือ
กองทัพเรือ ลำเลียงกำลังพล ที่ลอยคออยู่ในทะเล หลังจาก เรือหลวงสุโขทัย จมลงทะเล โดยกำลังพลชุดแรก 43 คน
ประจวบคีรีขันธ์ – กองทัพเรือ ลำเลียงกำลังพล ที่ลอยคออยู่ในทะเล หลังจากเรือหลวงสุโขทัย จมลง โดยกำลังพลชุดแรก 43 คน เข้าถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกบางสะพาน เมื่อเวลา 04.00.น.และก็แยกคนบาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลบางสะพานแล้วก็ศูนย์พักฯ ที่ทางอำเภอบางสะพานมีการเตรียมไว้
เวลา 04.00 น.วันนี้( 19 เดือนธันวาคม) ความคืบหน้าการช่วยเหลือกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ภายหลังจากจมลงแล้ว โดยกองทัพเรือ จัดส่งเรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงอ่างทอง รวมทั้ง ฮ.ซีฮอว์ก เข้าไปช่วยเหลือ เบื้องต้นสามารถช่วยกำลังพลที่ลอยคออยู่ในทะเลขึ้นเรือหลวงสุโขทัยมาได้ 43 คน แล้วก็นำกำลังพลที่ช่วยขึ้นมาได้เดินทางเข้ามาขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ โดยมีการเตรียมความพร้อม รถพยาบาล แล้วก็รถของมูลนิธิ ในจังหวัดประจวบฯ รวมกว่า 30 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขต4 ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ แพทย์ พยาบาล
โดยมีพลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค1 มาบัญชาการ รวมถึงนาวาเอกเรืองฤทธิ์ แสงแก้ว รอง.ผอ.ศรชล จังหวัดประจวบฯ นายอำเภอบางสะพาน ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้องทันทีที่เรือหลวงสุโขทัย เข้าเทียบท่าเรือน้ำลึก บางสะพาน เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้าย กำลังพลทั้งหมดลงจากเรือหลวงกระบุรี ขึ้นรถพยาบาลไปที่โรงพยาบาลบางสะพาน และศูนย์พักพิงอุ่นไอรัก บางสะพานที่จัดเตรียม ไว้แล้ว
เบื้องต้นมีคนได้รับบาดเจ็บที่เป็นสีแดง 4 ราย ทั้งขาหัก และเสียเลือดมาก. และบาดเจ็บเล็กน้อยสีเหลือง โดยในชุดแรกมีกำลังพลบาดเจ็บรวม 43 ราย นำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป